ข่าวใหญ่ที่ทำให้เกิดการตื่นตัวเกี่ยวกับการใช้แป้งเด็กกันทั่วโลก โดยศาลชั้นต้น เมืองเซนต์หลุยส์ สหรัฐอเมริกา ตัดสินให้ Johnson ต้องจ่ายค่าเสียประมาณ 2,500 ล้านบาทชดเชยแก่ครอบครัวของ แจ็กกี ฟอกซ์ สตรีวัย 62 ปีที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งรังไข่ (คุณยายใช้แป้งเด็กจอห์นสันฯ และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นชาวเวอร์ทูชาวเวอร์ทุกเช้าตั้งแต่เด็กจนโต เป็นเวลานานกว่า 35 ปี จนกระทั่งได้รับการวินิจฉัยพบว่าตัวเองเป็นมะเร็งเมื่อ 3 ปีที่แล้ว และเสียชีวิตในที่สุดเมื่อปี 2015)
มีการศึกษาวิจัยพบว่า ผู้ที่ใช้แป้งกับอวัยวะเพศ มีอัตราเสี่ยงจะเป็นมะเร็งรังไข่ โดยอาจเป็นไปได้ ที่แป้งสามารถหลงเข้าไปในร่างกายผ่านช่องคลอดมดลูกและท่อนำไข่เข้าไปสู่ช่องท้อง และสารทัลค์ (Talc หรือ ทัลคัม Talcum ส่วนประกอบหลักของแป้งฝุ่น ซึ่งเป็นสารอนินทรีย์มีชื่อเคมีว่า Hydrated Magnesium Silicate จงสังเกตว่าจะมีคำนี้บนกระป๋องแป้งเกือบทุกยี่ห้อ) ไม่สามารถย่อยสลายได้ในคน และถ้าสูดดมเข้าไป ก็จะไปสะสมในปอดทำให้เป็น ปอดอักเสบได้
ดังนั้นคุณแม่ตั้งครรภ์รวมถึงคุณผู้หญิงทุกคน เลี่ยงการทาบริเวณจุดซ่อนเร้นดีกว่าค่ะ และต้องระวังการสูดดมเข้าไปด้วยนะคะ ยิ่งในเด็กเล็ก ๆ ที่พ่อแม่ชอบโปะแป้งทั่วหน้าหนา ๆ ก็ต้องระวังด้วยนะคะ >_<